แนะนำแบล็คแจ็คออนไลน์เว็บตรงที่ปลอดภัย เชื่อถือได้

แบล็คแจ็คออนไลน์เป็นหนึ่งในเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีกติกาที่เข้าใจง่าย พร้อมกับโอกาสชนะที่จะทำให้คุณได้ลุ้นในทุกครั้งที่มีการเดิมพัน แต่การเลือกเว็บไซต์เพื่อเล่นแบล็คแจ็คที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเลยก็ว่าได้ และเราก็ตระหนักดีในส่วนนี้ เราจึงได้ตรวจสอบและทดลองเล่นมาแล้วว่ามีเว็บพนันออนไลน์ไหนบ้างที่ปลอดภัย มีเว็บไหนบ้าง ดูได้จากตารางด้านล่างนี้

  • โบนัสต้อนรับ
    200% สูงสุดถึง 9,000 บาท
    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    Bank Transfer Logo
    QR Code Payment Logo
    +6
    การให้คะแนน
    98%

    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    Bank Transfer Logo
    QR Code Payment Logo
    +6
    ข้อดี & ข้อเสีย:
    • มีเกมมากมายให้เลือกเล่นตามชอบกว่า 4,250 เกม
    • มีใบอนุญาตในการเปิดกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมายจากคูราเซา
    • สมาชิก VIP จะได้รับสิทธิพิเศษเครดิตเข้าบัญชีทุกสัปดาห์, การฝากเงิน และการถอนเงินในรูปแบบเฉพาะของวีไอพีคลับ
    • HappyLuke Casino ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสแบบ SSL จึงมีความปลอดภัยและน่าเชื่อ
    • ยังไม่รองรับการโอนหรือฝากเงินผ่านแอปพลิเคชัน LINE
    ปีที่ก่อตั้ง:
    2015
    เกมที่เปิดให้เล่น:
    สล็อต Icon
    เกมเทเบิ้ล Icon
    คาสิโนสด Icon
    แทงบอล Icon
  • โบนัสต้อนรับ
    ใส่โค้ดแนะนำภายใน 24 ชั่วโมง หลังสมัครสมาชิก เพื่อรับโบนัสเงินคืน
    Visa Logo
    Mastercard Logo
    Bitcoin (BTC) Logo
    BCH (Bitcoin Cash) Logo
    +18
    การให้คะแนน
    97%

    Visa Logo
    Mastercard Logo
    Bitcoin (BTC) Logo
    BCH (Bitcoin Cash) Logo
    +18
    ข้อดี & ข้อเสีย:
    • ควบคุมการลงทะเบียนและธุรกรรมที่ทันสมัยด้วย 2FA
    • ตรวจสอบความยุติธรรมของเกมได้
    • รองรับ Crypto +20 สกุลเงิน
    • มีเกมมากกว่า +3000 เกมจากดีลเลอร์ +145 ราย
    • นำเสนอตลาดกีฬา +30 รายการหลากหลายประเภททั่วโลก
    • ไม่มีโบนัสต้อนรับสำหรับฝากครั้งแรก
    • ฝ่ายบริการลูกค้าตอบกลับแชทสดค่อนข้างช้า
    • ไม่รองรับภาษาไทย
    ปีที่ก่อตั้ง:
    2017
    เกมที่เปิดให้เล่น:
    สล็อต Icon
    เกมเทเบิ้ล Icon
    คาสิโนสด Icon
    แทงบอล Icon
  • โบนัสต้อนรับ
    100% สูงสุด 57,380 บาท
    Visa Logo
    Mastercard Logo
    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    +3
    การให้คะแนน
    95%

    Visa Logo
    Mastercard Logo
    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    +3
    ข้อดี & ข้อเสีย:
    • ฝากเงินได้หลายช่องทาง ทั้งทางธนาคาร, Promptpay QR, Bitcoin, ทรูมันนี่ และ LinePay
    • นำเสนอตลาดกีฬาให้เลือกกว่า 30 รายการต่อเหตุการณ์
    • ฝ่ายสนับสนุนลูกค้ามากด้วยคุณภาพ ตอบเร็วเพียงวินาทีเดียวเท่านั้น
    • แอปมือถือ 1xBet รองรับทั้ง Android และ iOS โหลดง่ายไม่เด้ง
    • ไม่มีโบนัสแบบไม่ต้องฝากเงิน
    ปีที่ก่อตั้ง:
    2007
    เกมที่เปิดให้เล่น:
    สล็อต Icon
    เกมเทเบิ้ล Icon
    คาสิโนสด Icon
    แทงบอล Icon
  • โบนัสต้อนรับ
    ฝากขั้นต่ำ 200 บาท สูงสูด 1,000 บาท
    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    Bank Transfer Logo
    QR Code Payment Logo
    การให้คะแนน
    94%

    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    Bank Transfer Logo
    QR Code Payment Logo
    ข้อดี & ข้อเสีย:
    • ได้รับใบอนุญาติถูกต้องตามกฎหมาย
    • มีเกมให้เลือกกว่า +8,400 เกม จากดีลเลอร์ +64 ราย
    • เกมไม่เด้ง ไม่ค้าง รองรับทั้งเดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, มือถือทั้งระบบ Android และ iOS
    • โปรโมชันหลากหลายทั้งโบนัสยืนยันตัวตน, โบนัสต้อนรับรายวัน และโบนัสคืนเงิน
    • รองรับเฉพาะสกุลเงินไทยเท่านั้น
    ปีที่ก่อตั้ง:
    2022
    เกมที่เปิดให้เล่น:
    สล็อต Icon
    เกมเทเบิ้ล Icon
    คาสิโนสด Icon
    แทงบอล Icon
  • โบนัสต้อนรับ
    รับ 200% สูงสุด 9,000 บาท
    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    Bank Transfer Logo
    QR Code Payment Logo
    การให้คะแนน
    89%

    PromptPay Logo
    TrueMoney Logo
    Bank Transfer Logo
    QR Code Payment Logo
    ข้อดี & ข้อเสีย:
    • มีเกมให้เลือกกว่า 2,600 เกม จากดีลเลอร์มืออาชีพ
    • เล่นเกมได้ลื่นไหล ทั้ง PC, MAC, แท็บเล็ต, มือถือทั้งระบบ Android และ iOS
    • สิทธิพิเศษ VIP จะได้รับยอดคืนเงินเดิมพัน, คะแนนเลื่อนระดับ และโบนัสวันเกิด
    • การถ่ายทอดสดภาพและเสียงของคาสิโนสดมีมาตรฐานสูง ระดับ HD
    • การยกเลิกโปรโมชันบางรายการต้องติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
    ปีที่ก่อตั้ง:
    2018
    เกมที่เปิดให้เล่น:
    สล็อต Icon
    เกมเทเบิ้ล Icon
    คาสิโนสด Icon
    แทงบอล Icon

วิธีเลือกเว็บแบล็คแจ็คออนไลน์ที่เชื่อถือได้

วิธีเลือกเว็บแบล็คแจ็คออนไลน์ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้
วิธีเลือกเว็บแบล็คแจ็คออนไลน์ที่เชื่อถือได้และปลอดภัย ได้แก่ เลือกที่มีใบอนุญาต, มี House Edge ต่ำ, มีความหลากหลายของเกม, รองรับหลายอุปกรณ์ และอื่นๆ อีกมากมาย

การเลือกเว็บแบล็คแจ็คออนไลน์ที่เหมาะสมและปลอดภัยเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม ข้อมูลด้านล่างนี้ คือปัจจัยที่คุณสามารถใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาได้

ใบอนุญาตและชื่อเสียง

จุดสังเกตที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ แพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ที่โปร่งใสมักจะมีใบอนุญาตที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่กำกับดูแลในอุตสาหกรรมคาสิโนที่ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะ เช่น จากคูราเซา, คอสตาริกา, อันจูอัน และปานามา เป็นต้น ใบอนุญาตเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะบอกคุณได้ว่าเว็บนั้นๆ มีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง มีความยุติธรรม และความโปร่งใสในการให้บริการกับคุณ

มี House Edge ต่ำ

House Edge หรือ “ความได้เปรียบของคาสิโน” เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อโอกาสในการชนะของคุณในเกมคาสิโนต่างๆ เช่น แบล็คแจ็คและบาคาร่า โดย House Edge หมายถึงเปอร์เซ็นต์ที่คาสิโนจะได้เปรียบคุณในระยะยาว หากเว็บไซต์หรือเกมที่คุณเลือกมี House Edge ต่ำ คุณก็จะมีโอกาสชนะและทำกำไรได้มากขึ้น

สำหรับเกมแบล็คแจ็ค การมีกฎเกณฑ์ที่ดีซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อผู้เล่นสามารถช่วยลด House Edge ได้ เช่น การจ่ายแบล็คแจ็คในอัตรา 3:2 และการที่เจ้ามือต้องหยุดเมื่อได้ 17 แต้มแบบซอฟต์ (Soft 17) นอกจากนี้ ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ความได้เปรียบของเจ้ามือสำหรับเกมแต่ละเกม ซึ่งมักแสดงอยู่ในหน้าข้อมูลของเกมนั้นๆ โดยเปอร์เซ็นต์ House Edge ที่ดีสำหรับผู้เล่นควรอยู่ในระดับต่ำ เช่น ต่ำกว่า 1% เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะของคุณในระยะยาว

ความหลากหลายของเกม

เว็บแบล็คแจ็คออนไลน์ที่ดีควรมีเกมให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น Classic Blackjack ที่มีกติกาดั้งเดิม, Progressive Blackjack ที่เพิ่มความตื่นเต้นด้วยรางวัลแจ็คพอตแบบโปรเกรสซีฟ และ Live Blackjack ที่ให้ประสบการณ์เสมือนจริงผ่านดีลเลอร์สด นอกจากนี้ยังอาจมีตัวเลือกพิเศษ เช่น Spanish 21 หรือ Pontoon ที่เพิ่มความท้าทาย และตอบโจทย์ผู้ที่เป็นมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้และมือเก๋าที่ต้องการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ

รองรับได้หลายอุปกรณ์

การเลือกเว็บไซต์แบล็คแจ็คเว็บตรงที่รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android จะช่วยให้คุณสามารถสนุกกับเกมแบล็คแจ็คได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ ควรมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นที่ราบรื่น

โบนัสและโปรโมชัน

การเลือกเว็บไซต์ที่มีโบนัสและโปรโมชันที่ดึงดูดและคุ้มค่าเป็นสิ่งสำคัญ เช่น โบนัสเงินฝากครั้งแรก, เครดิตเล่นฟรีแบบไม่ต้องฝากสำหรับการทดลองเล่น หรือโปรโมชันคืนเงินรายสัปดาห์ที่ช่วยลดความเสี่ยง โบนัสเหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มความคุ้มค่า แต่ยังช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมได้ยาวนานขึ้น และเพิ่มโอกาสในการชนะมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดของโปรโมชันก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุด

แม้ว่าส่วนใหญ่แล้ว คุณจะสามารถเล่นแบล็คแจ็คโดยใช้โบนัสต้อนรับได้ แต่ก็มีบางกรณีเหมือนกัน ที่การเล่นแบล็คแจ็คอาจไม่ได้ช่วยลดข้อกำหนดการเดิมพันของโบนัส สิ่งสำคัญคือ คุณต้องตรวจสอบก่อนว่าการเล่นแบล็คแจ็คจะมีรวมอยู่ในข้อกำหนดการเดิมพันหรือไม่ และโบนัสนั้นสามารถใช้ในคาสิโนสดได้หรือเปล่า (หากคุณต้องการเล่นแบล็คแจ็คสดนะ) คาสิโนบางแห่งอาจไม่อนุญาตให้ใช้โบนัสต้อนรับในคาสิโนสด หรืออาจมีโบนัสคาสิโนสดพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะอยู่แล้ว การตรวจสอบเงื่อนไขเหล่านี้ก่อน จะช่วยให้คุณวางแผนการเล่นและใช้โบนัสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีการชำระเงิน

เลือกเว็บที่มีตัวเลือกการชำระเงินที่ปลอดภัยและหลากหลาย เช่น บัตรเครดิต/เดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือจะเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลอย่าง PayPal หรือ Crypto คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าการฝากและถอนเงินมีความรวดเร็ว

แบล็คแจ็คออนไลน์ คืออะไร?

แบล็คแจ็คออนไลน์ คืออะไร
แบล็คแจ็คออนไลน์ คือ เกมไพ่ที่คุณต้องทำแต้มในมือให้ได้ 21 แต้มมากที่สุด ห้ามเกินจากนี้ มีกลยุทธ์ให้คุณใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสชนะหลายวิธี

แบล็คแจ็คออนไลน์ คือ เกมไพ่ยอดนิยมที่เล่นผ่านแพลตฟอร์มคาสิโนออนไลน์โดยมีเป้าหมายหลักคือ การทำแต้มไพ่ในมือให้ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 มากที่สุด และห้ามเกินจากนี้ ซึ่งเกมนี้ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะมีกติกาการเล่นที่เข้าใจง่าย แต่ต้องอาศัยทั้งโชคและกลยุทธ์ในการตัดสินใจ และสามารถเล่นได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบหลายคนผ่านคาสิโนออนไลน์ต่าง ๆ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

กฎกติกาการเล่นแบล็คแจ็คทั่วไป

ในเกมแบล็คแจ็คออนไลน์เว็บตรงต่างประเทศ การตัดสินใจของคุณระหว่าง “Hit” และ “Stand” เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันจะส่งผลต่อผลลัพธ์ของเกม และแต่ละคำมีความหมาย ดังนี้

จั่ว (Hit)
หมายถึง การขอไพ่เพิ่มจากเจ้ามือเพื่อนำมารวมกับไพ่ที่มีอยู่ในมือที่คุณ โดยผู้เล่นอาจเลือก “จั่ว” ถ้าแต้มในมือยังอยู่และต้องการเพิ่มโอกาสให้แต้มใกล้เคียงกับ 21 มากขึ้น แต่คุณก็ต้องระวังด้วยว่า การจั่วไพ่มากเกินไปก็เสี่ยงที่จะทำให้แต้มรวมเกิน 21 (Bust) ซึ่งแปลว่าคุณจะแพ้ทันที

อยู่ (Stand)
หมายถึง การหยุดและไม่ขอไพ่เพิ่ม โดยคุณจะเลือก “อยู่” ถ้าคุณพอใจกับแต้มในมือหรือไม่ต้องการเสี่ยงให้แต้มเกิน 21 การหยุดในจังหวะที่เหมาะสมช่วยรักษาโอกาสชนะ โดยเฉพาะหากแต้มในมือมีความได้เปรียบกว่าเจ้ามือ

แบล็คแจ็คเล่นยังไง

แบล็คแจ็คเป็นเกมที่เล่นบนโต๊ะ โดยมีผู้เล่นตั้งแต่ 2 – 7 คน และใช้ไพ่ 52 ใบ ซึ่งอาจใช้ตั้งแต่ 1 – 8 สำรับในแต่ละเกม ไพ่ตัวเลขอย่าง 2 – 10 ก็จะมีค่าเท่ากับตัวเลขนั้นๆ ตามหน้าไพ่ ส่วนไพ่ที่เป็นหน้าคนอย่างแจ็ค ควีน และคิง จะมีค่าเท่ากับ 10 แต้ม ขณะที่ไพ่เอซจะพิเศษกว่าใบอื่น เพราะสามารถนับเป็น 1 หรือ 11 แต้มก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเกม

การเริ่มเกม

พอเริ่มรอบใหม่ คุณและนักพนันคนอื่นๆ ทุกคนจะต้องวางเดิมพันในตำแหน่งของตัวเองที่เรียกว่า “กล่อง (Boxes)” จากนั้นเจ้ามือจะแจกไพ่ให้คุณและคนอื่นๆ คนละ 2 ใบ โดยเปิหน้าไพ่ให้เห็นทั้งสองใบ ส่วนเจ้ามือเองจะได้ไพ่ 2 ใบเช่นกัน แต่จะเปิดหน้าไพ่แค่ใบเดียว อีกใบคว่ำไว้

เล่นยังไง

เมื่อไพ่แจกครบ นักพนันแต่ละคนจะได้เล่นทีละคน เริ่มจากคนที่อยู่ทางซ้ายของเจ้ามือก่อน คุณเลือกได้ว่าจะ “จั่ว (HIT)” หรือจะ “อยู่ (STAND)”

  • ถ้าเลือก “จั่ว” คุณจะได้ไพ่เพิ่ม 1 ใบ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะจั่วอีกหรือพอแค่นี้
  • แต่ถ้าคุณจั่วไพ่แล้ว แต้มรวมเกิน 21 ที่เรียกว่า “บัสต์ (Bust)” คุณจะแพ้ทันที แปลว่าคุณจะเสียเงินเดิมพันในรอบนั้น

คุณสามารถจั่วไพ่ได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจหรือจนกว่าจะบัสต์ เมื่อนักพนันทุกคนเล่นเสร็จแล้ว จะถึงตาเจ้ามือ

การเล่นของเจ้ามือ

เมื่อนักพนันทุกคนเล่นเสร็จ เจ้ามือจะเริ่มเล่นตามกฎของโต๊ะ ซึ่งโดยปกติเจ้ามือต้องจั่วไพ่จนกว่าแต้มจะถึง 17 หรือมากกว่า แต่ถ้าเจ้ามือ bust นักพนันคนอื่นทุกคนที่ยังอยู่ในเกมจะชนะทันที และได้เงินรางวัลเท่ากับเงินเดิมพันของตัวเอง

การตัดสินผล

  • ถ้าคะแนนของคุณมากกว่าเจ้ามือ คุณชนะ ได้เงินเพิ่ม
  • ถ้าคะแนนของคุณเท่ากับเจ้ามือ คุณจะได้เงินเดิมพันคืน
  • แต่ถ้าคะแนนน้อยกว่าเจ้ามือ คุณแพ้ เสียเงินเดิมพัน

กรณีแบล็คแจ็ค

ถ้าคุณได้ไพ่เอซคู่กับไพ่ที่มีค่า 10 (เช่น 10, แจ็ค, ควีน หรือคิง) ตั้งแต่ 2 ใบแรก แบบนี้เรียกว่า “แบล็คแจ็ค” เป็นแต้มสูงสุดในเกม และคุณจะชนะทันทีถ้าเจ้ามือไม่มีแบล็คแจ็คเหมือนกัน

ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา เราคิดว่าแบล็คแจ็คเล่นไม่ยากเลย เพียงแต่คุณต้องเข้าใจกฎพื้นฐานก่อนและรู้จักการตัดสินใจว่าจะจั่วไพ่เพิ่มหรือจะอยู่แค่นั้น สิ่งสำคัญคือ การอ่านสถานการณ์ให้ได้และไม่ต้องรีบร้อน จริงอยู่ว่าโชคก็มีส่วน แต่การคำนวณแต้มให้ดีสามารถใช้เป็นทักษะพื้นฐานได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้กับคุณโดยที่ไม่ต้องพึ่งโชคอย่างเดียว

กติกาเพิ่มเติมในการเล่นแบล็คแจ็ค

กติการการเล่นแบล็คแจ็ค
กติการการเล่นแบล็คแจ็ตทั่วไปแล้วจะมีจั่ว (Hit) กับ อยู่ (Hit) โดยที่คุณต้องทำแต้มในมือให้ได้ 21 หรือใกล้เคียง 21 มากที่สุด แต่หากเกิน 21 คุณบัสต์ (Bust) หรือแพ้ทันที

การเล่นแบล็คแจ็ค นอกจากจะมีกติกาการเล่นแบบพื้นฐานแล้ว ก็ยังมีกติกาและการเดิมพันข้างเคียงที่เอาไว้สร้างสีสันและสร้างความท้าทายให้กับคุณได้อีกมากมาย ดังนี้ 

แยกไพ่ (Split)

หากไพ่ 2 ใบแรกของคุณเป็นไพ่คู่ เช่น 5 กับ 5 หรือ แจ็คกับแจ็ค คุณสามารถเลือก “แยกไพ่” ออกเป็น 2 มือได้ โดยคุณต้องวางเงินเดิมพันเพิ่มอีกเท่ากับเงินเดิมพันเดิม หลังจากแยกไพ่ คุณจะได้รับไพ่เพิ่มในแต่ละมือ และเล่นแต่ละมือแยกกันตามปกติ

เพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down)

คุณสามารถเลือก “เพิ่มเงินเดิมพัน” ได้ หลังจากได้รับไพ่ 2 ใบแรก โดยวางเงินเพิ่มอีกเท่าตัว และจะได้รับไพ่เพิ่มเพียง 1 ใบเท่านั้น ไม่สามารถจั่วเพิ่มได้อีก แต่คุณจะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อคุณมั่นใจว่าในรอบนั้นๆ คุณมีโอกาสชนะสูง

ประกันภัย (Insurance)

ถ้าไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็นเอซ คุณสามารถเลือกเดิมพันแบบ “ประกันภัย” ได้ โดยวางเดิมพันครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพันเดิม การเลือกเดิมพันแบบนี้มันจะให้ความคุ้มครองเหมือนชื่อของมัน โดยที่หากเจ้ามือได้แบล็คแจ็ค คุณจะได้รับเงินคืนในอัตรา 2:1 แต่ถ้าเจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค คุณจะเสียเงินประกันส่วนนี้ไป

หมอบ (Surrender)

คุณสามารถเลือก “หมอบ” ได้หลังจากที่ได้รับไพ่ 2 ใบแรกจากเจ้ามือแล้ว หากคุณคิดว่าแต้มในมือของคุณมีโอกาสแพ้สูง การหมอบจะทำให้คุณเสียเงินเดิมพันเพียงครึ่งหนึ่งแทนที่จะเสียทั้งหมด

เดิมพันตามผู้เล่นอื่น (Bet Behind)

หากคุณไม่ได้นั่งเล่นในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง คุณสามารถเลือกวางเดิมพันตามผู้เล่นที่นั่งอยู่ในโต๊ะได้ วิธีนี้เรียกกันว่า “เดิมพันตาม” หรือ Bet Behind ความหมายก็คือคุณจะได้รับผลลัพธ์เหมือนผู้เล่นคนนั้นทุกประการ

ประเภทของแบล็คแจ็คออนไลน์ที่นิยมเล่น

ประเภทของแบล็คแจ็คออนไลน์ที่นิยมเล่น
แบล็คแจ็คออนไลน์ที่นิยมเล่นมีหลายประเภท อาทิ Classic Blackjack, European Blackjack, Progressive Blackjack และอื่นๆ อีกมากมาย

แบล็คแจ็คออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักพนัน ไม่ว่าจะเป็นแบบคลาสสิกหรือแบบที่มีกติกา พร้อมลูกเล่นพิเศษ เป็นการเพิ่มความสนุกและท้าทาย มาดูกันว่ามีประเภทไหนที่น่าสนใจบ้าง!

Classic Blackjack

แบล็คแจ็คคลาสสิกเป็นเกมไพ่ในรูปแบบดั้งเดิมและเป็นพื้นฐานของเกมแบล็คแจ็คทั้งหมด ปกติจะใช้ไพ่ 1-8 สำรับ มีกติกาที่เรียบง่ายง่ายมากๆ เช่น คุณจะชนะเจ้ามือได้นั้นต้องมีแต้มใกล้เคียงกับ 21 ให้ได้มากที่สุด และอย่าลืมว่าอย่าเกิน 21 แต้ม ไม่งั้นคุณแพ้ทันที ในขณะที่ของเจ้ามือ มักจะหยุดเล่นถ้าหากได้แต้ม 17 หรือที่เรียกว่า Soft 17 แบล็คแจ็คประเภทนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทำความรู้จักกับแบล็คแจ็ค

Single – Double Deck Blackjack

Single Deck Blackjack

เกมนี้มีความพิเศษตรงที่ไพ่แต่ละใบส่งผลต่อเกมมากกว่าการเล่นแบบหลายสำรับ กฎสำคัญคือสามารถแยกไพ่ (Split) ได้สูงสุด 3 ครั้ง แต่ไพ่เอซที่แยกจะได้รับไพ่เพิ่มเพียง 1 ใบ และการได้ไพ่เอซกับไพ่ 10 หลังการแยกจะนับเป็น 21 แต้ม ไม่ใช่แบล็คแจ็ค เจ้ามือต้องหยุดจั่วเมื่อได้แต้มที่ 17 แล้ว หรือเรียกว่า Soft 17 นั่นเอง

สำหรับกลยุทธ์ในการเล่นเกมนี้ เราแนะนำให้ split ไพ่ออกเป็น 3 มือ หากเจ้ามือมีแต้ม 2 หรือ 3 และยอมแพ้หากมีคู่ 7 แต่เจ้ามือถือไพ่ 10 ทั้งนี้ ไม่ควรใช้กลยุทธ์ประกัน เพราะเจ้ามือมีความได้เปรียบสูงในการเดิมพันนี้

Double Deck Blackjack

มีกติกาคล้ายกับแบล็คแจ็คสำรับเดียว (Single Deck) แต่ใช้ไพ่ 2 สำรับในการเล่น คุณจะได้รับไพ่สองใบคว่ำหน้า ขณะที่เจ้ามือจะได้ไพ่หนึ่งใบหงายขึ้น และเจ้ามือจะตรวจสอบทันทีหากมีเอซหรือ 10 เพื่อดูว่าเป็นแบล็คแจ็คหรือไม่ ถ้าคุณเกิดได้แบล็คแจ็ค คุณก็จะได้รับการจ่ายเงินในอัตรา 3:2

ในเกมนี้ คุณสามารถเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่าได้เฉพาะเมื่อมีแต้มรวม 9, 10 หรือ 11 และสามารถ split ไพ่คู่ได้ แต่ไม่สามารถแยกซ้ำได้หลังจากแยกครั้งแรกไปแล้ว เจ้ามือจะหยุดจั่วไพ่เมื่อได้แต้ม Soft 17 (แต้ม 17 ที่มีเอซ)

นอกจากนี้ การเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่าหลังจาก split ไพ่ไม่สามารถทำได้ เกมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายแลเพิ่มสีสันขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ยังคงความเรียบง่ายและโอกาสวางแผนการเล่นได้เป็นอย่างดี

Atlantic City Blackjack

มีจุดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างแรกเลยคือ เจ้ามือจะไม่เช็กไพ่แบล็คแจ็คทันทีหลังแจก แม้ว่าจะมีเอซหรือ 10 แต้มโชว์อยู่บนโต๊ะ นั่นหมายความว่าคุณจะได้เล่นต่อโดยไม่รู้ว่าเจ้ามือมีแบล็คแจ็คหรือไม่

ถ้าไพ่สองใบแรกของคุณเป็นคู่ (มีแต้มเท่ากัน) คุณสามารถแยกไพ่ (Split) ได้ถึง 3 ครั้ง แต่ถ้าเป็นคู่เอซ คุณจะได้รับไพ่เพิ่มแค่ใบเดียวต่อเอซ และไม่สามารถแยกเพิ่มได้อีก อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) ได้ทุกช่วงของเกม แม้จะเป็นหลังจากแยกไพ่แล้วก็ตาม

อีกอย่างที่สำคัญคือ เจ้ามือจะหยุดจั่วทันทีเมื่อได้แต้ม 17 ไม่ว่าจะเป็น Soft 17 หรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ เกมยังเปิดโอกาสให้คุณยอมแพ้ (Surrender) ได้ หากเจ้ามือถือเอซหรือไพ่ 10 แต้ม และถึงแม้ว่าในเกมนี้คุณจะใช้ Insurance ได้ แต่เราไม่แนะนำนะ เพราะดูแล้วโอกาศจะชนะนั้นค่อนข้างน้อย

Vegas Strip Blackjack

คุณสามารถเล่นเกมนี้ได้ในหลายๆ บ่อนออนไลน์ กติกาหลักๆ จะคล้ายกับแบล็คแจ็คทั่วไป แต่มีจุดแตกต่างเล็กน้อยที่คุณต้องรู้ เช่น จำนวนสำรับที่ใช้ ซึ่งมักจะเป็น 4 หรือ 8 สำรับ และเจ้ามือจะอยู่ทันทีเมื่อได้ soft 17 (แต้ม 17 ที่มีเอซ)

อีกจุดที่น่าสนใจคือ ถ้าเจ้ามือเริ่มต้นด้วยไพ่ 10 แต้ม หรือเอซ จะต้องเปิดไพ่ที่ซ่อนไว้ทันที คุณสามารถเพิ่มการเดิมพันเป็นสองเท่าได้ (Double Down) ได้แม้จะแยกไพ่ไปแล้ว และยังแยกไพ่ 10 แต้มได้ แม้จะเป็นไพ่คนละหน้า เช่น แจ็คกับคิง อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถแยกเอซซ้ำได้หรือยอมแพ้ (Surrender) ได้ ถือเป็นเกมที่มีกลยุทธ์และความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับนักเล่นที่ชอบความท้าทาย!

European Blackjack

แบล็คแจ็คประเภทนี้ค่อนข้างแตกต่างจากแบล็คแจ็คแบบอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องการแจกไพ่ ในแบล็คแจ็คทั่วไป เจ้ามือและนักเล่นคนอื่นจะได้รับไพ่สองใบตั้งแต่เริ่มเกม โดยเจ้ามือจะเปิดไพ่หนึ่งใบและคว่ำอีกใบไว้ แต่ใน European Blackjack นักเล่นจะได้รับไพ่ใบแรกก่อน และไพ่ใบที่สองจะถูกแจกหลังจากที่นักเล่นทุกคนเล่นเสร็จแล้ว

ซึ่งข้อจำกัดในเกมนี้ที่เราคิดว่าทำให้เล่นยากขึ้น เช่น การเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) จะทำได้เฉพาะเมื่อแต้มรวมเป็น 9, 10 หรือ 11 และถึงแม้จะแยกไพ่ (Split) ได้ แต่จะไม่สามารถแยกเพิ่มได้อีก นอกจากนี้ European Blackjack ยังให้โอกาสในการชนะที่น้อยกว่าแบล็คแจ็คแบบมาตรฐานเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ต่างกันมาก แต่เกมนี้ต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบและการเล่นอย่างมีวินัยมากขึ้นเลยทีเดียว

Multi-hand Blackjack

Multi-Hand Blackjack เป็นแบล็คแจ็คที่มีกฎพื้นฐานเหมือนเกมทั่วไป แต่ความพิเศษคือ คุณสามารถเล่นได้หลายมือพร้อมกัน สูงสุดที่ 5 มือ

กฎอาจแตกต่างกันไปตามคาสิโน เช่น บางที่เจ้ามือจะจั่วไพ่เพิ่มที่ Soft 17 ขณะที่บางแห่งจะหยุดจั่ว และในบางเวอร์ชันอาจไม่มีการยอมแพ้ (Surrender) แต่อนุญาตให้ Insurance ได้ เมื่อเจ้ามือมีเอซ รูปแบบยุโรปมักไม่ใช้ไพ่คว่ำหน้า และการเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) บางที่ทำได้ทุกคู่ แต่บางแห่งจำกัดเฉพาะแต้ม 9-11 Multi-Hand Blackjack เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเกมที่รวดเร็วและเดิมพันที่หลากหลาย

Double Exposure Blackjack

Double Exposure Blackjack มีจุดเด่นตรงที่เจ้ามือแจกไพ่ 2 ใบหงายหน้าให้คุณเห็นชัดเจน ทำให้คุณวางแผนได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น คุณอาจจะเสียเดิมพันทั้งหมด ยกเว้นมือแบล็คแจ็ค โดยแบล็คแจ็คจะจ่ายในอัตรา 1:1 และไม่มีตัวเลือกประกัน (Insurance) หรือการยอมแพ้ (Surrender)

เกมนี้จะไม่ให้คุณแยกไพ่ (Split) หรือแยกซ้ำ (Re-split) และการเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) ก็มีข้อจำกัด เกมส่วนใหญ่มักใช้ 6-8 สำรับในการเล่น ความท้าทายคือ เจ้ามือจะต้องอยู่ (Stand) เมื่อได้ 20 แต้ม และบางครั้งอาจถูกบังคับให้แยกไพ่หากแต้มในมืออยู่ในช่วง 13-16 Double Exposure เหมาะสำหรับคนที่ชอบอ่านเกมและวางแผนแบบสุขุมลุ่มลึก

Progressive Blackjack

เกมนี้เป็นอีกเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีกติกาคล้ายกับแบล็คแจ็คคลาสสิก แต่เพิ่มความสนุกด้วยการเดิมพันแจ็กพอตแบบพิเศษ คุณสามารถวางเดิมพันแจ็กพอตก่อนเริ่มเกม เพื่อลุ้นรางวัลใหญ่ ที่สำคัญคือ คุณสามารถเล่นได้ถึง 5 มือในรอบเดียว

กติกาหลักจะคล้ายแบล็คแจ็คทั่วไปนี่แหละ เจ้ามือต้องจั่วไพ่เมื่อแต้ม 16 หรือน้อยกว่า และยืนเมื่อได้ 17 หรือมากกว่า แต่มีข้อแตกต่าง เช่น การแยกไพ่เอซจะได้รับไพ่เพิ่มแค่ใบเดียว และถือว่าแต้มรวม 21 ไม่ใช่แบล็คแจ็ค หากไพ่ใบที่สองเป็นไพ่ 10 แต้ม อีกทั้งการแยกซ้ำหรือเพิ่มเงินเดิมพันหลังการแยกจะไม่สามารถทำได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีแต้มรวม 9, 10 หรือ 11 Progressive Blackjack เป็นเกมที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและมีโอกาสได้ลุ้นรางวัลใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทายและการเดิมพันแบบเสี่ยงโชค

Super Fun 21

Super Fun 21 เป็นแบล็คแจ็คที่เล่นเร็วและมีความยืดหยุ่นมาก คุณสามารถแยกไพ่คู่ (Split) เพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) หรือแม้แต่ยอมแพ้ (Surrender) ในช่วงท้ายของเกมก็ได้ เจ้ามือจะต้องจั่วไพ่เพิ่มเมื่อได้ Soft 17 คุณจะได้เปรียบเจ้ามือก็ตรงนี้แหละ

จุดเด่นของเกมนี้คือ คุณสามารถแยกไพ่คู่ใดก็ได้ รวมถึงเอซ และสามารถเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่าได้ทุกมือ โดยไม่จำกัดจำนวนไพ่ในมือ กติกานี้ช่วยเพิ่มโอกาสและความยืดหยุ่นให้คุณมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินสำหรับแบล็คแจ็คทั่วไปในเกมนี้จะจ่ายที่ 1:1 เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความรวดเร็วและมีตัวเลือกที่หลากหลายในการเดิมพัน

Blackjack Switch

Blackjack Switch เป็นเกมที่เพิ่มลูกเล่นให้คุณสนุกยิ่งขึ้น คุณจะได้ไพ่ 2 มือแทนที่จะเป็น 1 มือ และสามารถสลับไพ่ใบบนสุดระหว่างสองมือได้ ซึ่งเป้าหมายของเกมยังเหมือนเดิม คือทำแต้มให้สูงกว่าเจ้ามือโดยไม่เกิน 21 

ความพิเศษของ Blackjack Switch คือ ช่วยให้นักพนันปรับแต้มในมือเพื่อความได้เปรียบมากขึ้น เพิ่มโอกาสชนะและทำให้เกมดูน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม

Spanish 21

Spanish 21 เป็นแบล็คแจ็คเวอร์ชันดัดแปลงที่เล่นด้วยไพ่สเปน 48 ใบ ซึ่งไม่มีไพ่เลข 10 ใช้ไพ่ 6 หรือ 8 สำรับ คุณสามารถเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) ได้แบบไม่จำกัดจำนวนไพ่ในมือ และยังไม่มีค่าปรับสำหรับการทำประกัน (Insurance) อีกด้วย

จุดเด่นของเกมนี้คือ เจ้ามือไม่จำเป็นต้องหยุดที่แต้ม 17 สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ ทำให้เกมท้าทายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกพิเศษอย่าง “Match Play” ที่ให้นักพนันเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่า หากมั่นใจว่าจะเอาชนะไพ่ของเจ้ามือได้ Spanish 21 เหมาะสำหรับสายลุยที่ชอบความแปลกใหม่

21+3 Blackjack

21+3 Blackjack เป็นแบล็คแจ็คที่เพิ่มความสนุกด้วยการเดิมพันข้างเคียง (Side Bet) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างแบล็คแจ็คและโป๊กเกอร์ คุณสามารถวางเดิมพันเพิ่มเติมได้ เพื่อทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของคุณเอง และไพ่ใบแรกของเจ้ามือ จะรวมกันเป็นชุดไพ่โป๊กเกอร์ที่มีค่าตามกติกาด้านล่างนี้หรือไม่ เช่น:

  • Straight Flush: ไพ่เรียงเลขและดอกเหมือนกัน
  • Three of a Kind: ไพ่ 3 ใบที่มีแต้มเดียวกัน
  • Straight: ไพ่เรียงลำดับ
  • Flush: ไพ่ดอกเดียวกันทั้งหมด
  • Pair: ไพ่คู่ที่แต้มเท่ากัน

การเดิมพัน 21+3 นี้ช่วยเพิ่มความตื่นเต้น เพราะนอกจากคุณจะต้องลุ้นแบล็คแจ็คในมือแล้ว คุณยังมีโอกาสชนะเงินรางวัลพิเศษจากชุดไพ่โป๊กเกอร์อีกด้วย การจ่ายเงินของการเดิมพันข้างเคียงนี้ขึ้นอยู่กับกฎของแต่ละคาสิโน เช่น 5:1, 10:1 หรือบางที่ให้สูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความยากของชุดไพ่ 21+3 Blackjack เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบความหลากหลายและลุ้นรางวัลเพิ่มเติมระหว่างเกม เรียกได้ว่าใจถึงก็ไปถึง

Face Up 21

Face Up 21 เป็นแบล็คแจ็คที่ไม่เหมือนใคร เพราะเจ้ามือจะเปิดไพ่ทั้ง 2 ใบให้คุณเห็นตั้งแต่แรก หลังจากนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะใช้กลยุทธ์ไหน กติกาสำคัญคือ เจ้ามือต้องจั่วไพ่เพิ่มเมื่อได้ Soft 17 และหากเจ้ามือได้แต้ม 20 ผู้เล่นต้องมีแต้ม 19 พร้อมเอซหรือ 2 ถึงจะเสมอหรือชนะ

เกมนี้จ่ายเงินสำหรับแบล็คแจ็คในอัตรา 1:1 แทน 3:2 และหากแต้มเท่ากัน เจ้ามือจะชนะ ยกเว้นว่าคุณมีแบล็คแจ็ค คุณสามารถแยกไพ่เอซได้ แต่จะได้รับไพ่เพิ่มเพียงใบเดียวต่อเอซ และสามารถเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) ได้เฉพาะมือที่แต้มรวม 9, 10 หรือ 11 ซึ่งบางคาสิโนออนไลน์ยังอนุญาตให้แยกไพ่ซ้ำได้สูงสุด 3 ครั้ง

Match Play 21

Match Play 21 เป็นแบล็คแจ็คที่ใช้ไพ่พิเศษ โดยตัดไพ่เลข 10 ออกจากสำรับ แต่ยังคงมีไพ่หน้าอยู่ (แจ็ค, ควีน, คิง) และเอซอยู่เหมือนเดิม เกมนี้มักเล่นด้วยไพ่ 6 สำรับ แต่บางครั้งอาจใช้ระหว่าง 2 ถึง 8 สำรับ คุณสามารถแยกไพ่ได้ 2 ครั้ง หากมีไพ่คู่ และการเพิ่มเดิมพันสองเท่า (Double Down) จะได้รับไพ่เพิ่มอีกเพียง 1 ใบเท่านั้น

และเพื่อให้เจ้ามือไม่ได้เปรียบนักพนันมากเกินไป Match Play 21 จึงเสนอการจ่ายเงินที่ดีกว่าแบล็คแจ็คทั่วไป เช่น:

  • แบล็คแจ็ค 5 ใบจ่าย 3:2
  • แต้มรวม 21 จากไพ่ 6 ใบจ่าย 2:1
  • หากได้ไพ่ 7 ใบขึ้นไปโดยไม่บัสต์ จ่าย 3:1
  • คอมโบไพ่ 6-7-8 หรือ 7-7-7 ใดๆ จ่าย 3:2 แต่ถ้าเป็นชุดเดียวกันจะจ่าย 2:1 และหากเป็นดอกโพดำ (Spades) จะจ่าย 3:1
  • ในกรณีพิเศษ หากได้ 7-7-7 และเจ้ามือเปิดไพ่ 7 จะจ่ายสูงถึง 4:1 เลยทีเดียว

ความตื่นเต้นของเกม Match Play 21 อยู่ที่มีการจ่ายเงินที่หลากหลายนี่เอง จึงเหมาะกับนักพนันที่รักการลุ้นรางวัลใหญ่และการเล่นที่แปลกใหม่ต่างไปจากเดิม

Electronic Blackjack

Electronic Blackjack คือ แบล็คแจ็คที่เล่นผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมอัตโนมัติ คุณจะไม่ได้เล่นกับเจ้ามือจริง แต่เล่นกับระบบซอฟต์แวร์แทน เกมนี้จะใช้ไพ่ 1 สำรับ และมีกติกาคล้ายกับแบล็คแจ็คแบบดั้งเดิม

จุดเด่นของ Electronic Blackjack คือความรวดเร็วและความสะดวกในการเล่น คุณสามารถเริ่มเกมได้ทันที ไม่ต้องรอคิวหรือนักเล่นคนอื่น ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นคนเดียวหรือฝึกฝนกลยุทธ์การเล่นแบล็คแจ็คในเวลาใดก็ได้ที่คุณสะดวก

Live Blackjack

แบล็คแจ็คไลฟ์สด (Live Blackjack) คือเกมที่ถ่ายทอดสดตรงจากสตูดิโอจากดีลเลอร์มืออาชีพ อาทิ Pragmatic Play, NetEnt, Evolution และอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านออนไลน์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนอยู่ในคาสิโนจริง มีดีลเลอร์ตัวจริงแจกไพ่และโต้ตอบผ่านระบบแชทได้ บางแพลตฟอร์มยังมีฟีเจอร์พิเศษ เช่น มุมกล้องหลายมุม โต๊ะ VIP และดีลเลอร์หลายภาษา ซึ่งในการรีวิวคาสิโนเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ใน Casinohub888 ของเรา เราจะมีระบุไว้ว่าเว็บพนันไหนรองรับภาษาไทยบ้าง ดังนั้น นักพนันชาวไทยไม่ต้องกังวล

ประเภทของอัตราการต่อรองแบล็คแจ็ค

อัตราการต่อรองขึ้นอยู่กับประเภทของแบล็คแจ็คที่คุณเล่น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

Classic Blackjack

ต้องบอกว่าโอกาสชนะเฉลี่ยของแบล็คแจ็คทุกรูปแบบจะอยู่ที่ 42.22% ส่วนโอกาสได้แต้ม 21 ใน Classic Blackjack อยู่ที่ 4.8% โดยโอกาสได้แต้มในแต่ละกลุ่ม มีดังนี้

  • แต้ม 21: 4.8%
  • แต้ม 17-20: 30%
  • แต้ม 1-16: 38.7%
  • ไม่บัสต์: 26.5%

คาสิโนจะมีความได้เปรียบใน Classic Blackjack อยู่ที่ 0.61% นั่นหมายความว่า ทุกๆ การเดิมพัน 1,000 บาท คาสิโนจะได้กำไรเฉลี่ยที่ 6.10 บาท

ตัวย่างการคำนวณ

อัตราการจ่ายเงินเมื่อชนะ Classic Blackjack คือ 3:2 เช่น หากคุณเดิมพัน 1,000 บาทแล้วชนะ จะได้รับเงิน 1,500 บาท 

  • กำไร = (จำนวนเงินเดิมพัน ÷ 2) × 3 
  • (1,000 ÷ 2) × 3
  • 500 × 3
  • 1,500 บาท (รวมเงินต้นและกำไร)

European Blackjack

โอกาสชนะของคุณในเกม European Blackjack ก็ใกล้เคียงกับ Classic Blackjack คือประมาณ 42% อัตราการจ่ายเงินสำหรับแบล็คแจ็คยังคงเป็นที่ 3:2 แต่เราคิดว่าสิ่งที่ทำให้เกมนี้น่าสนใจกว่าคือ ความได้เปรียบของคาสิโน (House Edge) ที่ต่ำกว่า เพียง 0.39% ทำให้คุณมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นนั่นเอง 

Face up 21

โอกาสชนะใน Face Up 21 ใกล้เคียงกับแบล็คแจ็คแบบอื่น ๆ อยู่ที่ประมาณ 42% แต่มีข้อเสียสำคัญอยู่เหมือนกัน นั่นคือ หากแต้มเท่ากับเจ้ามือ เช่น ทั้งคุณและเจ้ามือได้ 20 แต้ม คุณจะเป็นฝ่ายแพ้โดยอัตโนมัติ

House Edge ของเกมนี้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับแบล็คแจ็คแบบอื่น ๆ อยู่ที่ 0.85% และอัตราการจ่ายเงินเมื่อชนะคือ 1:1 ซึ่งค่อนข้างต่ำ

Electronic Blackjack

Electronic Blackjack หรือที่เรียกว่า Video Blackjack เป็นแบล็คแจ็คที่เล่นกับคอมพิวเตอร์ คุณสามารถสมัครเข้าเล่นแบล็คแจ็คในเกมประเภทนี้ได้ใน M88 หรือ Siam855 ก็ได้ ซึ่งมีให้คุณได้ทดลองเล่นฟรีก่อน ซึ่งกติกาคล้ายแบล็คแจ็คทั่วไป แต่ House Edge จะสูงถึง 2.29% และมีอัตราจ่าย 1:1 ซึ่งต่ำกว่าแบล็คแจ็คแบบปกติ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางคาสิโนจ่ายในอัตรา 3:2 ซึ่งคุณต้องเช็ครายละเอียดให้ดีก่อนเล่น

Live Dealer Blackjack

เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทายและมีประสบการณ์การเล่นแบล็คแจ็คมาประมาณหนึ่งแล้ว คุณจะได้เล่นกับดีลเลอร์ตัวจริงผ่านระบบถ่ายทอดสดจากสตูดิโอ กติกาเหมือน Classic Blackjack และมี House Edge ต่ำกว่า โดยอยู่ที่ 0.49%-0.72% ขึ้นอยู่กับคาสิโนออนไลน์นั้นๆ อัตราจ่ายยังคงเป็น 3:2 เช่นเดียวกับในคาสิโนจริง คุณสามารถเข้าเล่นเกมแบล็คแจ็คสดได้จากเว็บพนันหลายๆ แห่งได้ อาทิ HappyLuke, LiveCasinoHouse, 1xbet และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับเราแล้วแบล็คแจ็คเป็นเกมเราที่ชอบที่สุด เพราะมันแทบจะเป็นเกมเดียวในคาสิโนที่เรามีโอกาสชนะในระยะยาวได้จริงๆ ถ้าเราเล่นด้วยกลยุทธ์ที่ใช่กับเกมนั้นๆ และใช้เทคนิคการนับไพ่ (Card Counting) ควบคู่ไปด้วย และขอย้ำนะว่า การนับไพ่ไม่ผิดกฎหมาย แต่มันก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างเอาสักหน่อยสำหรับการนับไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ ด้วยเหตุผล 3 ข้อ ด้านล่างนี้

  • กฎของแบล็คแจ็คต้องดีมากเพื่อให้การนับไพ่ได้ผล (โดยปกติกฎจะดีอยู่แล้วในแบล็คแจ็คออนไลน์)
  • การเจาะสำรับ (Deck Penetration) ต้องมีเปอร์เซ็นต์ที่สูง โดยปกติคาสิโนออนไลน์จะใช้ไพ่ 8 สำรับพร้อมกัน แต่จะทำการสับไพ่ทั้งหมดเมื่อแจกไปแล้ว 4 สำรับ ซึ่งให้การเจาะสำรับต่ำเหลือเพียง 50% เท่านั้น ซึ่งที่จริงแล้ว นักนับไพ่มักต้องการการเจาะสำรับที่ 70-75% เพื่อให้สามารถทำกำไรได้ โดยพื้นฐานแล้ว ยิ่งเจ้ามือเจาะไพ่ลึกก่อนการสับได้มากเท่าไหร่ นั่นแปลว่า คุณจะมีโอกาสมากขึ้นในการทำกำไรนั่นเอง
  • เกมในแบล็คแจ็คออนไลน์จะช้ากว่าเกมแบล็คแจ็คในชีวิตจริงมาก ซึ่งหมายความว่า กำไรต่อชั่วโมงของคุณจะต่ำเกินไปจนไม่สามารถทำกำไรได้

กลยุทธ์ในการนับไพ่แบล็คแจ็ค

กลยุทธ์ในการนับไพ่แบล็คแจ็ค
กลยุทธ์การนับไพ่แบล็คแจ็คจะใช้เพื่อเพิ่มโอกาสชนะให้กับตัวเอง มีหลายวิธี ได้แก่ Hi-Lo, Wong Halves, Zen Count และอื่นๆ อีกมากมาย

การนับไพ่เป็นเทคนิคที่นักพนันแบล็คแจ็คใช้เพื่อลดความได้เปรียบของคาสิโนและเพิ่มโอกาสชนะของตัวเอง โดยดูว่าไพ่ที่แจกไปแล้วมีแต้มสูงหรือต่ำมากน้อยแค่ไหน เพื่อคาดเดาว่าไพ่ที่เหลือในสำรับจะเอื้อประโยชน์ต่อนักพนันเองหรือเจ้ามือ ซึ่งการนับไพ่มีหลายวิธี ดังนี้

กลยุทธ์ Hi-Lo

กลยุทธ์ Hi-Lo เป็นวิธีนับไพ่ที่นิยมมาก เพราะง่ายและได้ผล โดยไพ่แต่ละใบมีค่าดังนี้:

  • ไพ่ 2-6: +1 (ไพ่ต่ำ เป็นประโยชน์กับเจ้ามือ)
  • ไพ่ 7-9: 0 (ไม่มีผลต่อเกม)
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง, เอซ: -1 (ไพ่สูง เป็นประโยชน์ต่อผู้เล่น)

การนับจำนวนการรัน (Running Count)

เริ่มนับที่ 0 เมื่อเริ่มเกม เมื่อแจกไพ่ทุกใบ ผู้เล่นจะเพิ่มหรือลดค่าตามไพ่ที่เห็น เช่น หากไพ่ที่แจกคือ 5 (+1), เอซ (-1), และ 7 (0) จำนวนการรันจะยังคงเป็น 0 แต่ถ้าไพ่ที่แจกส่วนใหญ่เป็นไพ่ต่ำ (+1) การนับจะเพิ่มขึ้น เช่น +3

หลักการสำคัญ

  • จำนวนการรันที่เป็นบวก (เช่น +5) แสดงว่าไพ่สูงเหลือเยอะในสำรับ แบบนี้เพิ่มเดิมพันได้
  • จำนวนการรันที่ติดลบ (เช่น -5) แสดงว่าไพ่ต่ำเหลือเยอะ จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้ามือ

Hi-Lo เป็นระบบ “สมดุล” หมายความว่าเมื่อแจกไพ่ครบทุกใบ คะแนนจะกลับมาเป็น 0 เสมอ ระบบนี้ช่วยให้คุณและผู้เล่นคนอื่น คาดเดาสถานการณ์ในเกมและปรับกลยุทธ์การเดิมพันได้อย่างแม่นยำ

กลยุทธ์ Omega-II

Omega-II เป็นระบบการนับไพ่ที่พัฒนาโดย Bruce Carlson เหมาะสำหรับนักพนันที่มีความเก๋าระดับกลางถึงขั้นสูง เนื่องจากมีความซับซ้อนกว่ากลยุทธ์ Hi-Lo โดยไพ่แต่ละใบมีค่าคะแนนดังนี้

  • ไพ่ 2, 3, 7: +1 (ไพ่แต้มต่ำ มีประโยชน์ต่อเจ้ามือ)
  • ไพ่ 4, 5, 6: +2 (ไพ่ที่ส่งผลดีต่อเจ้ามือมากที่สุด)
  • ไพ่ 9: -1 (ไพ่แต้มกลาง ลดประโยชน์ของผู้เล่นเล็กน้อย)
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง: -2 (ไพ่สูง ให้ประโยชน์กับผู้เล่น)
  • ไพ่เอซ และ 8: 0 (ไม่มีผลต่อการนับ)

การนับจำนวนการรัน (Running Count)

การนับจำนวนการรันเริ่มต้นที่ 0 เมื่อเริ่มเกม จากนั้นคุณสามารถบวกหรือลบค่าคะแนนตามไพ่ที่แจก เช่น

  • หากแจกไพ่ 3 (+1), 5 (+2), และ 9 (-1) จำนวนการรันจะเป็น +2
  • หากจำนวนการรันเป็นบวก เช่น +5 หมายความว่าไพ่แต้มสูงยังเหลืออยู่มากในสำรับ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีหากต้องการเพิ่มเงินเดิมพัน

หลักการสำคัญ

  • Omega-II เป็นระบบ “สมดุล” (Balanced System) หมายความว่า หากนับไพ่ครบทั้งสำรับแล้ว คะแนนก็จะกลับมาที่ 0
  • หากจำนวนการรันเป็นบวก คุณควรเพิ่มเงินเดิมพัน เพราะไพ่สูงที่เหลืออยู่ในสำรับจะเพิ่มโอกาสให้คุณชนะได้
  • หากจำนวนการรันเป็นลบ ควรลดเงินเดิมพัน เพราะไพ่ต่ำที่เหลือในสำรับ เจ้ามือจะได้เปรียบ

Omega-II เป็นระบบที่แม่นยำสูง แต่ต้องอาศัยความชำนาญและการฝึกฝนมากสักหน่อย คุณต้องพร้อมสำหรับการจดจำและคำนวณอย่างรวดเร็ว เพื่อใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์นี้ให้ได้มากที่สุด

กลยุทธ์ Hi-Opt I & II

กลยุทธ์ Hi-Opt (ย่อมาจาก Highly Optimized) เป็นระบบการนับไพ่ที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ไพ่ในสำรับ โดยมี 2 รูปแบบหลักๆ คือ Hi-Opt I และ Hi-Opt II ซึ่งเน้นติดตามไพ่ในบางกลุ่มที่ส่งผลต่อเกม

Hi-Opt I:

  • ไพ่ 3, 4, 5, 6: +1
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง: -1
  • ไพ่เอซ, 2, 7, 8, 9: 0

Hi-Opt II:

  • ไพ่ 2, 3, 6, 7: +1
  • ไพ่ 4, 5: +2
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง: -2
  • ไพ่เอซ, 8, 9: 0

การนับจำนวนการรัน (Running Count)

คุณจะเริ่มนับที่ 0 เมื่อเกมเริ่ม และบวกหรือลบค่าคะแนนตามไพ่ที่แจก เช่น

  • หากไพ่ที่แจกคือ 4 (+2), 6 (+1), และแจ็ค (-1) จำนวนการรันจะเป็น +2
  • จำนวนการรันที่เป็นบวก เช่น +5 หมายความว่า ไพ่แต้มสูงยังเหลืออยู่ในสำรับมาก ซึ่งเหมาะแก่การเพิ่มเงินเดิมพัน
  • จำนวนการรันที่เป็นลบ เช่น -3 แสดงว่าไพ่แต้มต่ำเหลือมากขึ้น แบบนี้เจ้ามือจะได้เปรียบ

หลักการสำคัญ

  • ระบบ Hi-Opt เป็นระบบ “สมดุล” (Balanced System) หากไพ่ถูกแจกจนหมดสำรับ คะแนนจะกลับมาเป็น 0 เสมอ
  • Hi-Opt I จะง่ายกว่า เหมาะสำหรับมือใหม่ ส่วน Hi-Opt II มีความแม่นยำกว่า แต่ซับซ้อนกว่า และต้องใช้ประสบการณ์และการฝึกฝนมากสักหน่อย

กลยุทธ์ Hi-Opt เหมาะสำหรับนักพนันที่ต้องการเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ แต่ก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการจดจำค่าคะแนนที่ซับซ้อนและฝึกฝนการใช้งานให้คล่องตัวด้วยเสมอ

กลยุทธ์ Wong Halves

Wong Halves เป็นระบบที่มีความซับซ้อนเพราะใช้ค่าคะแนนแบบทศนิยม แต่ให้ความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ ระบบนี้เป็นแบบสมดุล (Balanced System) ซึ่งหากนับไพ่ครบสำรับ คะแนนจะกลับมาเป็น 0

ค่าคะแนนของไพ่ใน Wong Halves

  • ไพ่ 2, 7: +0.5
  • ไพ่ 3, 4, 6: +1
  • ไพ่ 5: +1.5
  • ไพ่ 8: -0.5
  • ไพ่ 9: 0
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง, เอซ: -1

การนับจำนวนการรัน (Running Count)

เริ่มนับที่ 0 และปรับค่าตามไพ่ที่แจก ตัวอย่างเช่น:

  • หากไพ่ที่แจกคือ 5 (+1.5), 8 (-0.5), และ 3 (+1) จำนวนการรันจะเป็น +2
  • หากจำนวนการรันเป็นบวก เช่น +5 หมายความว่าไพ่สูงเหลือในสำรับมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มเดิมพัน
  • หากจำนวนการรันเป็นลบ เช่น -3 หมายความว่าไพ่ต่ำเหลืออยู่มาก ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อเจ้ามือ

หลักการสำคัญ

Wong Halves มีความแม่นยำสูงนะ เพราะติดตามไพ่ในสำรับได้ละเอียดมากทีเดียว แต่คุณต้องฝึกฝนการคำนวณอย่างเร็ว เพื่อที่คุณจะได้ใช้ระบบนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสามารถหลีกเลี่ยงค่าทศนิยมโดยการคูณค่า +0.5 เป็น +1 เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความได้เปรียบและมองว่าความซับซ้อนเป็นเรื่องสนุก

กลยุทธ์ Red 7

Red 7 เป็นระบบการนับไพ่ที่เหมาะสำหรับนักพนันมือใหม่ เพราะใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน โดยระบบนี้จะแบ่งค่าคะแนนตามประเภทของไพ่และสีของไพ่ 7 โดยมีค่าคะแนนดังนี้

  • ไพ่ 2-6 สีแดง: +1
  • ไพ่ 2-6 สีดำ: 0
  • ไพ่ 7 สีแดง: +1
  • ไพ่ 7 สีดำ: 0
  • ไพ่ 8-9: 0
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง, เอซ: -1

การนับจำนวนการรัน (Running Count)

ผู้เล่นเริ่มนับที่ 0 เมื่อเกมเริ่ม และปรับค่าตามไพ่ที่แจก ตัวอย่างเช่น

  • หากไพ่ที่แจกคือ 5 สีแดง (+1), 7 สีแดง (+1), และ 9 (0) จำนวนการรันจะเป็น +2
  • หากจำนวนการรันเป็นบวก เช่น +4 หมายความว่า ไพ่สูงยังมีอยู่ในสำรับอีกเยอะ คุณสามารถเพิ่มการเดิมพันได้
  • หากจำนวนการรันเป็นลบ เช่น -2 แสดงว่าไพ่ต่ำเหลือมากขึ้น เจ้ามือได้ประโยชน์

หลักการสำคัญ

Red 7 เป็นระบบที่ไม่ต้องรีเซ็ตค่าคะแนนในแต่ละรอบเกม คุณสามารถนับคะแนนต่อเนื่องได้ตลอดจนจบสำรับ ทำให้ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับนักพนันที่ต้องการฝึกฝนการนับไพ่

กลยุทธ์ KO

KO หรือ Knock-Out เป็นระบบการนับไพ่ที่เหมาะสำหรับทั้งนักพนันมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ระดับกลาง เพราะใช้งานง่ายและไม่ต้องปรับค่าไพ่ตามจำนวนสำรับที่ใช้ ระบบนี้เป็นแบบ ไม่สมดุล (Unbalanced System) หมายความว่า เมื่อแจกไพ่ครบทั้งสำรับ การนับคะแนนสุดท้ายจะไม่เท่ากับ 0

ค่าคะแนนของไพ่ใน KO

  • ไพ่ 2-7: +1
  • ไพ่ 8-9: 0
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง, เอซ: -1

การนับจำนวนการรัน (Running Count)

ผู้เล่นเริ่มต้นการนับที่ 0 และเพิ่มหรือลดคะแนนตามไพ่ที่แจก ตัวอย่างเช่น:

  • หากไพ่ที่แจกคือ 6 (+1), 10 (-1), และ 8 (0) จำนวนการรันจะเป็น +1
  • หากจำนวนการรันเป็นบวก เช่น +5 หมายความว่าไพ่สูงยังเหลืออยู่ในสำรับมาก ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะและควรเพิ่มเงินเดิมพัน
  • หากจำนวนการรันเป็นลบ เช่น -3 แสดงว่าไพ่ต่ำเหลือมากขึ้น ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อเจ้ามือ

หลักการสำคัญ

KO เป็นระบบที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องคำนวณซับซ้อน หรือปรับคะแนนตามจำนวนสำรับ แม้จะเป็นระบบไม่สมดุล แต่ก็ยังมีความแม่นยำมากพอสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดนับไพ่ที่ต้องการฝึกฝน

กลยุทธ์ Zen Count

ระบบนี้คะแนนรวมจะกลับมาเป็น 0 เมื่อไพ่ในสำรับถูกแจกครบ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่แม่นยำและเหมาะสำหรับนักพนันที่มีประสบการณ์มาแล้ว

ค่าคะแนนของไพ่ใน Zen Count

  • ไพ่ 2, 3, 7: +1
  • ไพ่ 4, 5, 6: +2
  • ไพ่ 8, 9: 0
  • ไพ่ 10, แจ็ค, ควีน, คิง: -2
  • ไพ่เอซ: -1

การนับจำนวนการรัน (Running Count)

ผู้เล่นเริ่มนับที่ 0 และปรับค่าตามไพ่ที่แจก ตัวอย่างเช่น

  • หากไพ่ที่แจกคือ 4 (+2), 7 (+1), และ 10 (-2) จำนวนการรันจะเป็น +1
  • หากจำนวนการรันเป็นบวก เช่น +5 หมายความว่า ไพ่สูงยังเหลืออยู่ในสำรับอีกเยอะ จะดีมากหากคุณสามารถวางเดิมพันเพิ่มได้
  • หากจำนวนการรันเป็นลบ เช่น -3 แสดงว่าไพ่ต่ำเหลือมากขึ้น เจ้ามือได้เปรียบคุณอยู่

หลักการสำคัญ

  • Zen Count เน้นติดตามไพ่ที่ส่งผลต่อเกมมากที่สุด เช่น ไพ่ 4, 5, 6 ที่ได้ค่าคะแนน +2 เพราะมีผลกระทบต่อเกมเป็นอย่างมาก
  • หากจำนวนการรันต่ำหรือเป็น 0 คุณควรวางเดิมพันขั้นต่ำ แต่หากจำนวนการรันเพิ่มขึ้น ควรเพิ่มเดิมพันอย่างระมัดระวัง

แบล็คแจ็คออนไลน์ เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยกฎกติกาที่เข้าใจง่ายและวิธีเล่นที่ท้าทาย คุณสามารถเลือกเล่นได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Classic Blackjack, Vegas Strip หรือ Live Blackjack พร้อมทั้งเรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การนับไพ่ Hi-Lo และ Zen Count เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ

นอกจากนี้ การเลือกคาสิโนออนไลน์เว็บตรงต่างประเทศที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ คุณควรพิจารณาจากใบอนุญาต, ความหลากหลายของเกม, บริการที่ได้มาตรฐาน, การจ่ายเงินที่โปร่งใส และอัตราการต่อรองที่ยุติธรรม เพื่อให้การเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ของคุณเป็นทั้งความสนุก และปลอดภัยด้วยในเวลาเดียวกัน